Skip to main content

นวัตกรรมผ้าไทยในปัจจุบัน

นวัตกรรมผ้าไทยในปัจจุบัน

ปัจจุบันมีเทคนิคการผลิตผ้าไหมให้ใช้งานได้ง่าย ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก
สวยงามกว่าเดิม มีความทนทานและยังคงเอกลักษณ์ของผ้าไหมไว้เหมือนเดิม

ไหมอีรี่ (Eri Silk)

ใยไหมที่รู้จักและใช้กันทั่วไปคือ ไหมหม่อน (Mulberry Silk) ได้จากหนอนไหมที่กินใบหม่อน ส่วนไหมอีรี่ (Eri Silk) เป็นไหมป่าที่เลี้ยงโดยไม่ต้องใช้ใบหม่อนเป็นอาหาร สามารถใช้ใบมันละหุ่งและใบมันสำปะหลังเลี้ยงได้ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ศึกษาวิจัยเลี้ยงเมื่อปี พ.ศ. 2517 และส่งเสริมให้เกตรกรในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือทดลองเลี้ยง และได้ผลผลิตดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ใยไหมอีรี่เป็นไหมปั่น (Spun Silk) ที่เป็นที่ต้องการของอุตสหกรรมปั่นด้าย เนื่องจากมีความเหนียว ยาว แวววาว สวยงาม ราคาดีกว่าเส้นใยฝ้าย นุ่มคล้ายขนสัตว์ แต่ดูดซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดีกว่า ใส่แล้วอบอุ่นในฤดูหนาว เย็นสบายในฤดูร้อน ทนทานกว่าไหมหม่อน ติดสีได้ทั้งสีสังเคราะห์และสีธรรมชาติ ซักด้วยวิธีปกติไม่ต้อง

ผ้าไหมกลุ่มทอยก อยุธยา มีคุณสมบัติทำความสะอาดตัวเองได้

เป็นผ้าไหมที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิจัยต่อยอดผ้าไหมทอยกดอก ของกลุ่มทอผ้ายก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้มีคุณสมบัติทำความสะอาดตัวเองได้ ด้วยวัสดุเชิงประกอบไทเทเนียมไดออกไซด์ และซิลิกาไดออกไซด์ ผลการวิจัยพบว่า ผ้าไหมที่ผ่านการตกแต่งสำเร็จด้วยสารไทเทเนียมไดออกไซด์ ทำให้เกิดปฏิกิริยาโฟโตแคตาไลติค โดยซิลิกาไดออกไซด์ จะช่วยให้ไทเทีเนียมไดออกไซด์เกิดปฏิกิริยาโฟโตแคตาไลติคได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อนำไปทดสอบคุณสมบัติการทำความสะอาดตัวเองภายใต้แสงอัลตราไวโอเลต พบว่า ผ้าไหมมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดตัวเองได้ รอยเปื้อนที่แตกต่างกัน จะใช้เวลาในการทำความสะอาดแตกต่างกัน

เครื่องประกอบการแต่งกายที่นำผ้าไหมจากการวิจัยนี้มาตัดเย็บ คือ แบรนด์กระหนกพัสตรา ของกลุ่มทอผ้ายก อยุธยา โดยนำผ้าทอยกดอกลายดอกดารารัตน์ ที่จัดทำขึ้นในโอกาสพิเศษร่วมกับลายกรุงเชิงอยุธยา ผ้าไหมหลังการตกแต่งสำเร็จยังคงความแวววาว แต่ผิวสัมผัสและเนื้อผ้าจะกระด้างขึ้น เหมาะแก่การนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องประกอบการแต่งกายประเภท กระเป๋า รองเท้า  ที่ต้องการคงรูปผลิตภัณฑ์และไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง

ผ้าไหมยีนส์

เกิดจากการพัฒนาต่อยอดของร้านเรือนไหม - ใบหม่อน จ.สุรินทร์ ร่วมกับสถาบันพัฒนาสิ่งทอ ทอผ้าไหมในรูปแบบผ้ายีนส์ จนได้จดอนุสิทธิบัตร

ผ้าไหมยีนส์ ได้มาจากไหมหยาบที่อยู่ส่วนนอกสุดของรังไหม เป็นไหมแท้ 100 % มีคุณสมบัตินุ่ม เนื้อผ้าเบา ซับเหงื่อ ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดีกว่าผ้ายีนส์ทั่วไป ย้อมสีผ้าด้วยคราม ปรับให้เข้มหรืออ่อนได้ตามต้องการ

ไหมหยาบนั้น เป็นส่วนที่ไม่นิยมนำไปใช้ทอผ้า แต่หลังจากการคิดค้นนวัตกรรมนี้ ทำให้เพิ่มมูลค่าของวัสดุหลายเท่าตัว ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนและครอบครัวที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

การดูแลรักษาผ้าไหมยีนส์ สามารถซักเครื่องหรือซักมือด้วยสารซักล้างอ่อน ๆ ได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องแช่ผ้าค้างคืน ตากในที่ร่มเพื่อให้สีสดใสไม่ซีด หากต้องการรีด ก็รีดจากด้านในขณะที่ผ้ายังหมาด